การวิเคราะห์ลายนิ้วมือถือว่าเป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เนื่องจากต้องอาศัยขั้นตอนและการตรวจสอบที่เป็นระบบ โดยมีการเก็บข้อมูลเชิงชีวภาพ วิเคราะห์อย่างมีหลักการ และอ้างอิงตามทฤษฎีวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างและพัฒนาการทางสมอง รวมถึงมีการทดสอบผลลัพธ์ซ้ำ ๆ อย่างเป็นระบบ ดังนี้ :

• การเก็บข้อมูลด้วยเครื่องสแกนที่มีความคมชัดสูง
  การเก็บภาพลายนิ้วมือที่คมชัดเพื่อให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลทางชีวภาพเฉพาะบุคคลได้อย่างถูกต้อง เป็นการเริ่มต้นที่สำคัญตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ เพราะต้องการข้อมูลที่มีคุณภาพสูงเพื่อความน่าเชื่อถือในการประมวลผล
• การใช้โครงสร้างทางชีวภาพในการวิเคราะห์
  การศึกษาลายนิ้วมือที่มีรูปแบบและจำนวนเส้นที่แตกต่างกัน ถือเป็นลักษณะเฉพาะตัว (Biometric) ซึ่งโครงสร้างนี้มีรากฐานทางชีวภาพที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาของสมองในช่วงก่อนคลอด จากทฤษฎีการพัฒนาประสาทวิทยา (Neurodevelopment) การเปรียบเทียบลายนิ้วมือจึงมีความเชื่อมโยงกับศักยภาพทางสมองและการทำงานทางด้านต่าง ๆ ของมนุษย์
• การศึกษางานวิจัยและทฤษฎีต่าง ๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์
  เราได้นำข้อมูลจากงานวิจัยที่ครอบคลุมหลายด้าน เช่น ประสาทวิทยาศาสตร์ (Neuroscience) ชีววิทยาพันธุศาสตร์ (Genetics) และการวิเคราะห์ลายพิมพ์ชีวภาพ (Biometrics) และมีงานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นถึงความสอดคล้อง ของการเชื่อมโยงลายนิ้วมือกับการทำงานของสมอง โดยมีรูปแบบของลายนิ้วมือและจำนวนเส้นที่มีความเชื่อมโยงอย่างมีนัยยะ
• การประมวลผลเชิงคำนวณและการวิเคราะห์ทางสถิติ
  เราได้นำสมมุติฐานที่ได้มาพัฒนาเป็นอัลกอริทึมเชิงคำนวณที่คำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น จำนวนเส้น (Ridge) รูปแบบลายเส้น (Fingerprint Pattern) และความสมดุลของลายนิ้วมือ กระบวนการวิเคราะห์ลายนิ้วมือนี้ใช้ Ai ในการช่วยหาความสัมพันธ์เชิงคณิตศาสตร์ สมการคณิตศาสตร์ และตัวแปรต่าง ๆ ที่ได้จาก ควบคุมตัวแปรเพื่อทดสอบการคำนวณหาค่าที่ใกล้เคียงตามเป้าหมาย โดยการทดลองซ้ำและการควบคุมตัวแปรเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มความน่าเชื่อถือของอัลกอริทึมการวิเคราะห์
• การทดสอบและปรับปรุงอัลกอริทึม
  ผลลัพธ์ที่ได้จะถูกทดสอบในกลุ่มตัวอย่างที่หลากหลาย เพื่อประเมินความเสถียรและความแม่นยำของการวิเคราะห์ตามมาตรฐานทางสถิติ โดยมีการพัฒนาปรับปรุงอัลกอริทึมตามผลที่ได้รับจากการวิเคราะห์เชิงลึก ซึ่งกระบวนการนี้ทำให้สามารถทดสอบความเชื่อถือของผลลัพธ์ที่มีต่อกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ได้จริง
• การยึดตามหลักการทางวิทยาศาสตร์
  กระบวนการทั้งหมดตั้งแต่การเก็บข้อมูล การใช้ทฤษฎีเพื่อคำนวณ ไปจนถึงการทดสอบทางสถิติ เป็นไปตามหลักการวิทยาศาสตร์ที่มุ่งเน้นการทำงานซ้ำ ๆ เพื่อให้ได้ผลที่น่าเชื่อถือและสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งกระบวนการนี้เน้นความแม่นยำและเป็นกลาง ทำให้ผลลัพธ์มีความถูกต้องและใช้ได้จริงในทางปฏิบัติ