ถาม-ตอบ ข้อสงสัย เรื่องการวิเคราะห์ลายนิ้วมือกับ M Booster

ถาม ตอบ ข้อสงสัย การวิเคราะห์ลายนิ้วมือ M Booster

ถาม : การวิเคราะห์ลายนิ้วมือคืออะไร และมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน?

ตอบ :

การวิเคราะห์ลายนิ้วมือเป็นกระบวนการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลายนิ้วมือ (Dermatoglyphics) และศักยภาพทางสมอง โดยลายนิ้วมือพัฒนาขึ้นตั้งแต่อายุครรภ์ 13 สัปดาห์ และสมองกับลายนิ้วมือมีการเชื่อมโยงกันในระดับโครงสร้าง (Neuro-developmental Correlation) อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.mbtclub.com/dermatoglyphics/

ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์มาจาก ลักษณะเส้นลาย หรือ รูปแบบลายนิ้วมือ (Ridges) และ จำนวนเส้นลาย (Ridge Count) ซึ่งสัมพันธ์กับศักยภาพของสมองในแต่ละส่วน เช่น

  • การแสดงออกทางพฤติกรรม นำมาจำแนกเป็นลักษณะนิสัย

  • ความไวในการเรียนรู้แต่ละด้าน นำมาปรับค่าเพื่อวิเคราะห์ศักยภาพด้านต่างๆ

ในด้านความน่าเชื่อถือ งานวิจัยในสาขา Biometrics สนับสนุนว่าโครงสร้างลายนิ้วมือสะท้อนถึงศักยภาพที่ติดตัวเรามาโดยธรรมชาติ และการประยุกต์ใช้อัลกอริทึมเฉพาะทางช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ อ่านเพิ่มเติมเรื่อง วิทยาศาสตร์กับการวิเคราะห์ลายนิ้วมือ

ถาม : ผลวิเคราะห์เชื่อถือได้ขนาดไหน?

ตอบ :
สำหรับสำหรับการวิเคราะห์กับสถาบันวิเคราะห์ศักยภาพ M Booster เรามีฐานข้อมูลและอัลกอริทึมที่พัฒนามาอย่างมีหลักการ และมีการติดตามลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ได้รับคำชื่นชมถึงความแม่นยำและตรงกับตัวบุคคล ที่สำคัญคือสามารถนำไปใช้ได้จริง อ่านเพิ่มเติมเรื่อง วิทยาศาสตร์กับการวิเคราะห์ลายนิ้วมือ 

ถาม : วิเคราะห์แล้วจะช่วยอะไรได้บ้าง?

ตอบ :

การวิเคราะห์ลายนิ้วมือสามารถช่วยคุณหรือบุตรหลานในหลายมิติ เช่น:

  • เข้าใจจุดแข็ง-จุดอ่อนตามพื้นฐานที่เขามี
    เช่น หากพบว่ามีความโดดเด่นในด้านการจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ (L2) คุณสามารถส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมศิลปะ การออกแบบ หรือการเล่าเรื่อง ยังสามารถประยุกต์ในเชิงดนตรีได้อีกด้วย
  • ค้นพบวิธีเรียนรู้ที่เหมาะสมที่สุด
    เช่น หากมีศักยภาพด้านการมองที่ดี (Visual Learner) อาจแนะนำให้เรียนผ่านสื่อภาพ วิดีโอ หรือ Mind Mapping หรือการใช้ลักษณะแรงจูงใจในรูปแบบที่เหมาะสมกับคนๆ นั้น
  • วางแผนการพัฒนาศักยภาพอย่างเป็นระบบ
    การเรียนรู้และใช้ทักษะในแต่ละช่วงอายุมีลักษณะที่แตกต่างกัน การเข้าใจการเรียนรู้ของเรา ก็จะสามารถปรับในรูปแบบการเรียนรู้ที่เหมาะกับตัวเราได้ เช่น การเรียนรู้ด้านคณิตศาสตร์ ช่วงประถมต้น จะเรียนโดยเน้นเนื้อหา ซึ่งใช้ศักยภาพที่เกี่ยวข้องกับการรับข้อมูลเป็นหลัก แต่ตั้งแต่ประถมปลาย จะต้องเรียนรู้โดยใช้ความเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ ศักยภาพด้านการคิดวิเคราะห์และการทำความเข้าใจ (R2) จะใช้ในโจทย์ที่มีความซับซ้อน หรือการตีความโจทย์ที่มากขึ้น
  • แนะแนวอาชีพที่เหมาะสม หรือ มีแนวการเติบโตในสายอาชีพที่เหมาะกับตัวเองได้
    แต่ละอาชีพจะมีศักยภาพที่หลายศักยภาพ และศักยภาพก็จะมีการใช้ที่มีลักษณะเฉพาะ ในรายงานผลวิเคราะห์ลายนิ้วมือ จะใช้ศักยภาพหลักๆ ที่ใช้ประจำของอาชีพนั้น มาวิเคราะห์ผล แต่ในอาชีพนั้นๆ เรายังสามารถประยุกต์ใช้จากศักยภาพด้านอื่นๆ ได้ด้วย ซึ่งในส่วนนี้ยังสามารถปรึกษานักวิเคราะห์ลายนิ้วมือในการปรับใช้ได้ สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาได้ที่ ตามช่องทางติดต่อที่สะดวก เข้าดูที่หน้า https://www.MBTclub.com/

ถาม : ลายนิ้วมือเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่?

ตอบ :
ลายนิ้วมือเป็นเอกลักษณ์ที่ติดตัวเรามาตั้งแต่กำเนิดและจะไม่เปลี่ยนแปลงตลอดชีวิต แม้จะเกิดการบาดเจ็บจนเป็นแผล แต่โครงสร้างพื้นฐานของลายนิ้วมือ (เช่น จำนวนเส้นลายนิ้วมือ (Ridge) และ รูปแบบลายนิ้วมือ (Pattern) ยังคงเดิม ลายนิ้วมือจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหลักจากหยุดพัฒนาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ช่วงประมาณสัปดาห์ที่ 21 ฉะนั้นในการวิเคราะห์ลายนิ้วมือ เมื่อลายนิ้วมือชัด สามารถวิเคราะห์ลายนิ้วมือได้

ถาม : วิเคราะห์ลายนิ้วมือเหมาะกับใครบ้าง?

ตอบ : การวิเคราะห์ลายนิ้วมือ เหมาะกับทุกช่วงวัย และแต่ละช่วงก็ใช้ประโยชน์จากผลการวิเคราะห์ลายนิ้วมือที่แตกต่างกัน

  • เด็ก : เพื่อช่วยในการสังเกต แยกแยะพฤติกรรมของเด็ก ทำให้เราเข้าใจเด็ก สร้างและส่งเสริมพฤติกรรมที่ดีได้ง่าย วางแผนพัฒนาการและการเรียนรู้
  • วัยประถม : ปรับให้เหมาะในการเรียนรู้วิชาต่างๆ โฟกัสกิจกรรมได้ตรงกับศักยภาพที่โดดเด่น ไม่ต้องหว่านเรียน ปูพื้นฐานการเรียนรู้ วางแผนและพัฒนาการเรียนรู้ได้อย่างเข้าใจ
  • วัยรุ่น : เข้าใจตัวเอง เข้าใจศักยภาพ ค้นหาตัวเองได้ง่าย สามารถแนะนำ แนะแนว ปรับการเรียนรู้ เพื่อช่วยเลือกสาขาเรียนหรืออาชีพที่เหมาะสม  มีแนวทางการเรียนต่อ ที่ชัดเจนและแนวทางที่ใช่สำหรับตนเอง
  • ผู้ใหญ่ : รู้จุดแข็ง ปรับใช้จุดอ่อน ปรับรูปแบบการทำงานที่เหมาะสมกับเรา เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
  • ครอบครัว : เข้าใจและยอมรับกันมากขึ้น เพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว สามารถส่งต่อประสบการณ์การใช้ศักยภาพและศักยภาพแฝงได้

ถาม : การวิเคราะห์ลายนิ้วมือแตกต่างจากแบบทดสอบบุคลิกภาพอย่างไร?

ตอบ : 
การวิเคราะห์ลายนิ้วมือใช้ข้อมูลทางกายภาพที่ไม่เปลี่ยนแปลง มาจากการคำนวณ ขณะที่แบบทดสอบบุคลิกภาพอาจได้รับผลกระทบจากอารมณ์หรือประสบการณ์ในช่วงเวลานั้น ๆ ทำให้ลายนิ้วมือสะท้อนศักยภาพโดยธรรมชาติมากกว่า

  • ข้อมูลพื้นฐานที่ใช้

    • ลายนิ้วมือ : เป็นข้อมูลที่ไม่เปลี่ยนแปลง และตัวแปรและข้อมูลที่นำมาใช้ ปัจจุบันมีรูปแบบลายนิ้วมือ และจำนวนเส้นลายนิ้วมือของแต่ละนิ้ว นำมาวิเคราะห์ผ่านอัลกอริทึมเฉพาะของ M Booster
    • แบบทดสอบบุคลิกภาพ: อาจได้รับผลกระทบจากอารมณ์ ประสบการณ์ หรือสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น และอาจจะขึ้นอยู่กับความเข้าใจในคำถามหรือการตีความอีกด้วย
  • การนำไปใช้

ถาม : การวิเคราะห์ลายนิ้วมือได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?

ตอบ : 
การวิเคราะห์ลายนิ้วมือสามารถทำได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด เพราะลายนิ้วมือพัฒนาสมบูรณ์ตั้งแต่อายุครรภ์ 13 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ลายนิ้วมือเด็กเล็ก นิ้วนาง และนิ้วก้อยจะยังนิ่ม ทำให้เก็บลายนิ้วมือจะไม่ค่อยชัดมาก ช่วงอายุที่เริ่มวิเคราะห์ได้ คือ ตั้งแต่ 1 ขวบขึ้นไป เนื่องจากช่วยให้ผู้ปกครองเข้าใจศักยภาพของลูกและวางแผนพัฒนาการได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ (เร็วสุดเราเคยเก็บลายนิ้วมือมา คือ อายุ 5 เดือน) ฉะนั้นยิ่งรู้เร็ว ก็สามารถเตรียมพัฒนาทักษะต่าง ลองผิดลองถูกตามข้อมูลได้

สำหรับเด็กโตหรือผู้ใหญ่ การวิเคราะห์ก็ยังมีประโยชน์ เพราะช่วยค้นหาศักยภาพที่อาจถูกมองข้าม และใช้ในการปรับตัวหรือพัฒนาในระยะยาว

ถาม : การวิเคราะห์ลายนิ้วมือแต่ละที่ผลวิเคราะห์เหมือนกันไหม?

ตอบ : 
ไม่เหมือนกันทั้งหมด เพราะการวิเคราะห์ลายนิ้วมือแต่ละที่อาจใช้ :

  1. หลักการและอัลกอริทึมที่พัฒนาแตกต่างกัน :
    • การใช้หลักการในการวิเคราะห์แตกต่างกัน ทำให้อัลกอริทึมที่ได้แตกต่างกัน ผู้พัฒนาอัลกอริทึมควรต้องรู้ที่มาที่ไป ของผลวิเคราะห์ลายนิ้วมือที่นำมาใช้ เพื่อใช้ในการควบคุมตัวแปรและปรับค่าเพื่อให้ผลวิเคราะห์สามารถนำมาวิเคราะห์ได้จริง ตัวอย่างหลักการที่อาจจะมีความแตกต่าง เช่น ค่า ATD การวัดมุมองศาตำแหน่งง Delta ที่ฝ่ามือ, หรือการใช้ค่าผลรวมจำนวนเส้นลายนิ้วมือ (TFRC) มาวิเคราะห์ความไวในการเรียนรู้ (ปัจจุบันของ M Boosterไม่ได้นำส่วนนี้มาวิเคราะห์แล้ว เนื่องจากผลวิเคราะห์ที่ค่าศักยภาการเรียนรู้แต่ละด้านบอกได้ชัดเจนมากกว่า)
    • เทคโนโลยีและกระบวนการวิเคราะห์ เลือกที่มีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และอัลกอริทึมที่ผ่านการพัฒนาอย่างเป็นระบบ
  2. รายละเอียดและคุณภาพของรายงาน : ผลรายงานแต่ละที่มีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ผลรายงานในแต่ละเรื่องควรต้องชัดเจน อ่านเข้าใจง่ายและใช้งานได้จริง ผลวิเคราะห์ที่ดีในรายงานต้องอ่านแล้วรู้ได้ทันทีว่าลักษณะ, ศักยภาพด้านนั้นๆ หรือเรื่องที่วิเคราะห์ด้านนั้นๆ เป็นอย่างไร และการอ่านผลวิเคราะห์โดยนักวิเคราะห์จะเป็นส่วนที่จะประยุกต์เพิ่มเติมจากเนื้อหา หรือเป็นการเชื่อมโยงผลข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ต่อยอด ขอทดลองดูตัวอย่างรายงาน หากรายงานอ่านง่าย และให้คำแนะนำที่ชัดเจน นำไปใช้ได้จริง จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้รับบริการได้
  3. ความเชี่ยวชาญของผู้ให้บริการ : ผู้เชี่ยวชาญหรือนักวิเคราะห์ที่มีประสบการณ์สูงมักให้คำแนะนำที่เหมาะสมและเข้าใจง่าย สามารถนำไปใช้ได้จริง นักวิเคราะห์ที่ดีต้องรู้เนื้อหา รู้รายละเอียดละความแตกต่างของค่าต่างๆ ในรายงาน สามารถเชื่อมโยงข้อมูลรายงานได้
  4. บริการหลังการขาย หรือ ความต่อเนื่องในการดูแล : การดูแลหลังการขายแต่ละที่แตกต่างกัน เช่น การให้คำปรึกษาเพิ่มเติมหลังจากได้รับรายงาน, การเข้าถึงรายงานแบบ Online หรือการพัฒนาการให้บริการอื่นๆ หรือดูรีวิวจากลูกค้า หรือสอบถามว่ามีผลงานหรือประสบการณ์ในวงการนี้มานานแค่ไหน เนื่องจากการวิเคราะห์ลายนิ้วมือ สามารใช้ผลของรายงานได้ในทุกช่วงวัย ฉะนั้นหากผู้ให้บริการสามารถดูแลเราระยะยาวๆ ได้จะทำให้เราสามารถใช้ผลรายงานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพได้

ถาม : วิเคราะห์ลายนิ้วมือจะเป็นการชี้นำอนาคตไหม?

ตอบ : ไม่ใช่การชี้นำอนาคต แต่เป็นการสะท้อนศักยภาพพื้นฐานตามธรรมชาติที่คุณมีอยู่
ในแต่ะกิจกรรม แต่ละอาชีพ ใช้ศักยภาพที่หลายตัว ทำให้การเติบโตในสายอาชีพนั้นๆ สามารถนำผลศักยภาพมาประยุกต์ให้เหมาะกับเราได้ ในอีกด้านหนึ่ง ผลวิเคราะห์ช่วยให้คุณเข้าใจจุดแข็งและแนวทางพัฒนาที่เหมาะสมกับตัวเอง หรือบุตรหลาน โดยอนาคตขึ้นอยู่กับการนำศักยภาพเหล่านี้ไปใช้ การฝึกฝน และประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน การวิเคราะห์ลายนิ้วมือเปรียบเสมือนเป็นเพียง “แผนที่” ที่ช่วยให้คุณเห็นเส้นทาง แต่การเดินทางขึ้นอยู่กับคุณเอง

ถาม : เลี้ยงลูกเอง ทำไมจะไม่รู้จักลูกเรา?

ตอบ : 
พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกเองย่อมรู้จักนิสัยและพฤติกรรมของลูกในระดับหนึ่ง แต่ การวิเคราะห์ลายนิ้วมือช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมและเปิดมุมมองใหม่ ๆ ที่อาจไม่ได้สังเกต

  • วิธีการเรียนรู้ที่ลูกถนัดที่สุด (ภาพ เสียง การลงมือทำ)
  • ศักยภาพแฝงที่ซ่อนอยู่ หรือ รูปแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับเรา
  • จุดอ่อนที่ต้องระวัง เช่น การควบคุมอารมณ์ หรือการทำงานเป็นทีม

สิ่งเหล่านี้ช่วยเสริมการเลี้ยงดูลูกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยลดความขัดแย้งในครอบครัว การวิเคราะห์ลายนิ้วมือ ก็เป็นเพียงเครื่องมือในการเข้าใจตัวเอง คำแนะนำก็จะเป็นข้อมูลที่เราจะใช้ในการประกอบการตัดสินใจ และ การเลี้ยงดูในแต่ละช่วงวัยมีความแตกต่างกัน หากเราได้นักวิเคราะห์ที่เข้าใจตัวตนของเด็กๆ และสามารถปรึกษาได้ ยังไงก็ย่อมดีกว่าแน่นอน!!

ถาม : วิเคราะห์ลายนิ้วมือ เป็นวิทยาศาสตร์เทียมหรือเปล่า?

ตอบ : 
ไม่ใช่วิทยาศาสตร์เทียม เพราะการวิเคราะห์ลายนิ้วมือมีพื้นฐานจากงานวิจัยด้านชีววิทยาและพันธุศาสตร์ และการวิเคราะห์ลายนิ้วมือ ของ M Booster ใช้กระบวนการและหลักการทางวิทยาศาสตร์ในการหาค่าต่างๆ อย่างมีระบบ เช่น

  • ความสัมพันธ์ระหว่างลายนิ้วมือกับการพัฒนาสมอง (Neurobiology)
  • มีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการหาค่าผลต่างๆ อย่างมีหลัการและมีระบบในการพัฒนา

อย่างไรก็ตาม ความแม่นยำขึ้นอยู่กับ:

  1. ฐานข้อมูลที่ใช้ในการพัฒนา
  2. การออกแบบอัลกอริทึมวิเคราะห์
  3. ความเข้าใจของผู้ให้บริการ
การศึกษาโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เราเข้าใจปรากฎการณ์ต่างๆ หรือสิ่งที่เกิดขึ้น และเราสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ตามที่เราต้องการ การวิเคราะห์ลายนิ้วมือก็เช่นกัน ผลการวิเคราะห์ลายนิ้วมือที่ดี ผลการวิเคราะห์ต้องสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้รับบริการเป็นและอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ตามที่ผลแสดงอยู่ในรายงานการวิเคราะห์ ในการวิเคราะห์ลายนิ้วมือเอง ก็ยังมีเรื่องที่เรายังต้องศึกษาและพัฒนาต่อ ในเรื่องความเป็นวิทยาศาสตร์ ลองมาพูดคุย สอบถาม ลองเข้ามาทดลองก่อนที่จะตัดสินครับ ติดต่อมาได้

ถาม : M Booster ได้มีการติดตามผลหลังจากวิเคราะห์ไปบ้างไหม?

ตอบ : สำหรับ M Booster จะมีการติดตามผลต่อเนื่อง และเนื่องจากเรายังมีการให้คำแนะนำเชิงลึกที่นำไปใช้งานได้จริง จึงต้องมีการติดตามผลของการแนะนำไป และยัง:

  1. เปิดช่องทางปรึกษาหลังวิเคราะห์: ลูกค้าสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือไม่เข้าใจเนื้อหาในรายงาน
  2. การติดตาม ช่วยให้เราสามารถต่อยอด : ออกแบบและพัฒนารายงานและบริการให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า

การติดตามผลช่วยให้มั่นใจว่าลูกค้าได้นำคำแนะนำไปปรับใช้จริง และตรวจสอบว่าผลการวิเคราะห์ช่วยแก้ไขปัญหา หรือเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าในด้านต่าง ๆ ได้หรือไม่

ถาม : การวิเคราะห์มีบ้างไหมที่ไม่ตรงกับผลวิเคราะห์?

ตอบ : เนื่องจากเราเป็นผู้พัฒนาอัลกอริทึมของ M Booster ทำให้เรารู้ข้อจำกัดต่างๆ ในการวิเคราะห์ ในกรณีทั่วไป ที่รูปแบบลายนิ้วมือสามารถระบุได้อย่างชัดเจน และเส้นลายนิ้วมือมีลายเส้นชัด ผลวิเคราะห์ที่ผ่านมา ยังไม่มีลูกค้าบอกผลไม่ตรงและไม่สามารถเชื่อถือได้ และโดยเฉลี่ยให้ค่าผลประเมินจากลูกค้าเอง มากกว่า 90% ว่าเชื่อถือได้และนำผลวิเคราะห์ไปใช้ได้จริง

แต่การวิเคราะห์ลายนิ้วมืออาจมี ข้อจำกัด ที่ทำให้ผลไม่ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าคาดหวัง หรือ อาจจะมีเรื่องความเข้าใจ อาจตีความผลวิเคราะห์ไม่ตรงประเด็น หรืออาจเข้าใจผิดว่าศักยภาพในรายงาน คือ “ความสามารถที่มี” ซึ่งศักยภาพคือความไวในการเรียนรู้และใช้งาน จึงต้องต้องอาศัยเวลาและการฝึกฝนหากต้องการทักษะในระดับที่สูงขึ้น เช่น เด็กที่มีศักยภาพด้านดนตรีสูงตามผลวิเคราะห์ แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ได้แสดงออก เพราะไม่ได้รับการฝึกฝนหรือสนับสนุนในด้านนี้

ถาม : การวิเคราะห์มีบ้างไหมที่ไม่ตรงกับผลวิเคราะห์?

ตอบ : เนื่องจากเราเป็นผู้พัฒนาอัลกอริทึมของ M Booster ทำให้เรารู้ข้อจำกัดต่างๆ ในการวิเคราะห์ ในกรณีทั่วไป ที่รูปแบบลายนิ้วมือสามารถระบุได้อย่างชัดเจน และเส้นลายนิ้วมือมีลายเส้นชัด ผลวิเคราะห์ที่ผ่านมา ยังไม่มีลูกค้าบอกผลไม่ตรงและไม่สามารถเชื่อถือได้ และโดยเฉลี่ยให้ค่าผลประเมินจากลูกค้าเอง มากกว่า 90% ว่าเชื่อถือได้และนำผลวิเคราะห์ไปใช้ได้จริง

แต่การวิเคราะห์ลายนิ้วมืออาจมี ข้อจำกัด ที่ทำให้ผลไม่ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าคาดหวัง หรือ อาจจะมีเรื่องความเข้าใจ อาจตีความผลวิเคราะห์ไม่ตรงประเด็น หรืออาจเข้าใจผิดว่าศักยภาพในรายงาน คือ “ความสามารถที่มี” ซึ่งศักยภาพคือความไวในการเรียนรู้และใช้งาน จึงต้องต้องอาศัยเวลาและการฝึกฝนหากต้องการทักษะในระดับที่สูงขึ้น เช่น เด็กที่มีศักยภาพด้านดนตรีสูงตามผลวิเคราะห์ แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ได้แสดงออก เพราะไม่ได้รับการฝึกฝนหรือสนับสนุนในด้านนี้

Scroll to Top