วิเคราะห์ลายนิ้วมือ
โดยใช้รูปถ่ายลายนิ้วมือ

วิเคราะห์ลายนิ้วมือ
โดยใช้การถ่ายรูปลายนิ้วมือ
ปัจจุบัน เทคโนโลยีการถ่ายภาพดีขึ้นมาก
ทำให้ภาพถ่ายจากกล้องมือถือรุ่นธรรมดา
สามารถถ่ายรูปลายนิ้วมือที่มีแสงเพียงพอได้ชัดมาก
และ เราได้มีการใช้ Image Proceesing
ในการปรับปรุงภาพก่อนไปวิเคราะห์ลายนิ้วมือ
ทำให้ภาพมีความคมชัดและสามารถวิเคราะห์ต่อได้
การสแกนลายนิ้วมือ ด้วยเครื่องสแกน เพื่อค้นหาศักยภาพ อาจทำให้ไม่สะดวกในการเข้ารับบริการ การใช้รูปถ่ายอาจจะมีความยุ่งยากในการดำเนินการอยู่บ้าง แต่ก็สะดวกในการเข้าถึงได้ง่าย อยู่ที่ไหนก็สามารถทำได้ (เรามีราคาและส่วนลด มอบให้การถ่ายรูปเพื่อวิเคราะห์ลายนิ้วมือ)
ช่วงอายุที่แนะนำ :
1. น้องๆ ระดับมัธยมขึ้นไป
2. ผู้ใหญ่
3. น้องๆ ระดับประถมปลาย, น้องๆ ที่ลายนิ้วมือบางๆ อาจจะถ่ายรูปยากหน่อย
เงื่อนไขการรับบริการ
– ชำระค่าบริการ ลงทะเบียนและส่งรูปลายนิ้วมือ
– M Booster จะวิเคราะห์ลายนิ้วมือโดยใช้เวลาไม่เกิน 2 วัน
– หากกังวลเรื่องความปลอดภัย ท่านสามารถลงข้อมูลชื่อเล่น เป็นนามสมมุติได้โดยไม่ต้องระบุชื่อ-นามสกุลจริง
– อ่านคำชี้แจงว่าด้วยความเป็นส่วนตัว เพิ่มเติมได้ที่นี่
MBT Version 4.11
เวอร์ชัน 10 วันที่ 21 ก.ค. 2024 เวลา 22:31
ขั้นตอนของการวิเคราะห์
- ระบุตำแหน่งนิ้วบนนิ้วมือ : ง่ายในการสังเกต สะดวกในการแนบไฟล์ และป้องกันความผิดพลาดในการส่งรูป เพราะหากระบุผิด ผลการวิเคราะห์มีโอกาสผิดเพี้ยนตามไปด้วย
- ถ่ายรูปลายนิ้วมือ : ใช้มือถือหรือกล้องถ่ายภาพก็ได้ สำคัญคือการถ่ายให้ชัด การถ่ายให้ชัด คือ แสงต้องได้, โฟกัสต้องได้
- เตรียมรูปลายนิ้วมือก่อนส่ง : ใช้มือถือหรือกล้องถ่าย ขนาดที่ต้องการอยู่ระหว่าง 1200 – 2400 pixels และมีขนาดไฟล์อยู่ระหว่าง 500 – 1,000 KB
- เตรียมรูปโปรไฟล์ Profile : เลือกรูปถ่ายที่จะใช้เป็นโปรไฟล์
- ลงทะเบียนรับบริการ : ลงข้อมูล รูปโปรไฟล์ และรูปลายนิ้วมือทั้ง 10 ตำแหน่ง
เทคนิคการถ่ายรูปลายนิ้วมือเพื่อวิเคราะห์
- แสงเพียงพอ : ถ่ายรูปลายนิ้วมือให้มีแสงเพียงพอ เช่น แสงธรรมชาติ, ห้องที่มีความสว่าง, หรือใช้แฟลชจากมือถือหรือ การใช้แฟลชลบเงา (มีในบางรุ่น)
- ใช้โหมดมาโคร : มือถือเกือบทุกรุ่นในปัจจุบัน (สามารถดูข้อมูลของมือถือแต่ละรุ่นได้) จะมีโหมดมาโคร หรือ โหมดถ่ายระยะใกล้ ปกติโหมดนี้จะมีอยู่ใน “เพิ่มเติม” ข้อเสียของโหมดมาโคร คือ การโฟกัสได้ยาก ดังนั้นบางครั้งโหมดปกติ ก็ถ่ายได้ชัดมากกว่า
- ให้ได้ระยะโฟกัส : มีหลายคนเข้าใจผิดว่า ถ้าเราเอากล้องเข้าใกล้นิ้วมาก รูปก็จะชัดระยะของกล้องกับนิ้วมือ จะมีระยะชัด เราสามารถเลื่อนเข้าออกเพื่อหาระยะที่ภาพมีความคมชัดมากที่สุดแล้วถ่าย
- ระบุตำแหน่งนิ้วมือในรูป : จากการถ่ายหลายรูปหลายมุมเพื่อเลือกรูปที่มีลายนิ้วมือที่ชัด จะทำให้เราสับสนได้ในตอนส่งข้อมูล ดังนั้นเราสามารถระบุตำแหน่งที่นิ้วได้เลย การระบุสามารถใช้ Post-it โพสอิท, ปากกา, สก็อตเทป เขียนระบุ
การปรับขนาดรูปลายนิ้วมือ ก่อนส่งข้อมูล
จากข้อจำกัดในการส่งรูปและ Image Processing ของภาพ เราจึงขอแแนะนำให้ใช้ขนาดรูปและขนาดไฟล์ตามรายละเอียดด้านล่าง
- ขนาดรูป : ขนาดรูป ควรมีขนาดระหว่าง 1200 x 2400 Pixels (พิกเซล) ตัวอย่างเช่น 1200×1600, 1600×1600, 1300×2312
- ขนาดไฟล์ : ขนาดไฟล์ ไม่ควรเกิน 1000KB หากมีขนาดที่ใหญ่มากเกินไป จะทำให้ใช้เวลาในการส่งนาน และมีโอกาสที่จะส่งไม่ผ่านได้
การทำให้ได้ขนาดภาพที่ต้องการ
มีวิธีการอื่นๆ ที่หลากหลาย ในการทำให้ได้ขนาดตามที่เราต้องการ
เช่น การปรับขนาดของภาพก่อนถ่ายรูป, หรือเลือกโหมดที่มีขนาดภาพพอดี
หรือการใช้แอพช่วยในการปรับขนาดรูป
สำหรับ Dot photo เป็นแอพที่ใช้ได้ง่ายและสะดวก
นอกจากนี้ยังมีแอพและโปรแกรมที่สามารถปรับขนาดรูปได้ เช่น PhotoScape, ACDsee
ตัวอย่างรูปถ่ายลายนิ้วมือ ที่มีการใช้ Image Processing







