แนวคิดที่สำคัญในการพัฒนาตัวเอง

แนวคิดที่สำคัญในการพัฒนาตัวเอง

แนวคิดในการใช้ศักยภาพที่เป็นจุดแข็ง และ จุดอ่อน

ทุกคนล้วนมีศักยภาพในตัวเองที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นศักยภาพที่โดดเด่นจนพัฒนาได้ง่าย หรือศักยภาพที่ต้องการความพยายามและการฝึกฝนเพิ่มเติม การเข้าใจและพัฒนาศักยภาพเหล่านี้ให้เหมาะสมจะช่วยให้เราพัฒนาตัวเองได้อย่างสมดุล

1. การพัฒนาศักยภาพที่โดดเด่น หรือ จุดแข็ง

ศักยภาพที่โดดเด่นคือด้านที่เราสามารถเรียนรู้และใช้ได้อย่างรวดเร็ว หากได้รับการส่งเสริมอย่างถูกวิธี จะช่วยให้เราเติบโตและประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น

แนวทางการพัฒนา

  • ต่อยอดความเชี่ยวชาญ: ใช้ศักยภาพที่โดดเด่น เช่น ทักษะการจัดการ และการสื่อสาร (R1) เราก็ต้องเปิดโอกาสให้ได้ใช้ หรือให้เรียนรู้เพื่อฝึกฝน เช่น ทบทวนบทสนทนา หรือหาโอกาสนำเสนอ เพื่อให้ได้เตรียมการ หรือได้นำเสนอ เพื่อพัฒนาให้เก่งยิ่งขึ้น
  • เชื่อมโยงกับด้านอื่น: ใช้ความสามารถเด่นในการสนับสนุนจุดอื่น เช่น ศักยภาพที่โดดเด่นของเรา คือ ด้านการใช้สีสัน (L5) ในการเรียนหรือการทำงาน อาจใช้ปากกาแยกสีามความสำคัญ หรือใช้สื่อเพื่อจำแนกเนื้อหา ก็จะทำให้จดจำเนื้อหาได้ง่ายมากขึ้น
  • สร้างแรงบันดาลใจจากความสำเร็จ: ศักยภาพด้านที่ดี เมื่อมีการใช้งานหรือพัฒนา จะทำได้ดี จึงช่วยเพิ่มความมั่นใจ และกลายเป็นแรงผลักดันให้เราเรียนรู้ต่อไป ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ มักจะมีรูปแบบการเรียนรู้ของแต่ละกิจกรรมที่มีลักษณะการใช้ศักยภาพที่คล้ายๆ กัน นักวิเคราะห์ลายนิ้วมือจะช่วยแนะนำและช่วยหารูปแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสมให้ได้ สามารถติดต่อของคำปรึกษาได้

สิ่งที่ควรระวัง
อย่าละเลยการพัฒนาตัวเองในด้านอื่น เพราะการพึ่งพาด้านที่เด่นเพียงอย่างเดียวอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลในระยะยาว และเนื่องจากแต่ละกิจกรรมใช้ศักยภาพประกอบกันหลายด้าน หากเราพัฒนาตัวเองเพียงด้านที่เป็นจุดเด่น จะกลายเป็นข้อจำกัดของเราได้

2. การพัฒนาศักยภาพที่ไม่ถนัด หรือ จุดอ่อน

ศักยภาพที่อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานของเรา (ผลในรายงาน คือ ค่าศักยภาพที่น้อยกว่าค่าประจำตัวและอยู่ในอันดับท้ายๆ) อาจดูเหมือนเป็นข้อจำกัด แต่ก็สามารถพัฒนาได้ด้วยวิธีที่เหมาะสม หรือ ใช้ความเข้าใจในการพัฒนาตัวเองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีได้ การพัฒนาด้านที่มีศักยภาพไม่สูง ควรฝึกฝนอย่างน้อยต้องสามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน และไม่ให้มีปัญหาในการเรียนรู้ หรือการทำงาน

แนวทางการพัฒนา

  • ปรับใช้อย่างเหมาะสม: ใช้ด้านที่ด้อยในบริบทที่มีข้อจำกัด เช่น หากทักษะการฟัง (R4) ไม่โดดเด่น อาจเลือกวิธีการเรียนรู้ผ่านภาพแทน หรือการใช้การจดบันทึก ในศักยภาพด้านที่ไม่สูง และต้องหาศักยภาพที่ดีมาปรับใช้ แนะนำให้ปรึกษานักวิเคราะห์ลายนิ้วมือ
  • ฝึกฝนในระดับพื้นฐาน: เริ่มต้นจากกิจกรรมที่ง่ายเพื่อกระตุ้นศักยภาพ เช่น การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก (R3) ผ่านการวาดภาพหรือปั้นดิน
  • ยอมรับและค่อยๆ พัฒนา: เข้าใจว่าไม่จำเป็นต้องเก่งในทุกด้าน แต่การพยายามพัฒนาจะช่วยสร้างสมดุลในชีวิต

สิ่งที่ควรระวัง
อย่ากดดันตัวเองจนเกินไป หรือคาดหวังผลลัพธ์ในระยะสั้น เพราะการพัฒนาศักยภาพในจุดที่ด้อยต้องใช้เวลา

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับศักยภาพการเรียนรู้

  1. ต้องเก่งทุกด้านถึงจะประสบความสำเร็จ

    • ความจริงคือ การใช้จุดเด่นเป็นตัวนำ และปรับตัวในด้านอื่น จะช่วยสร้างความสำเร็จได้ง่ายกว่า
  2. ด้านที่ด้อยไม่สำคัญ

    • แม้ศักยภาพด้านที่ด้อยอาจไม่ใช่จุดแข็ง แต่ก็สามารถพัฒนาให้สนับสนุนด้านอื่นได้
  3. การวิเคราะห์ศักยภาพคือการตีกรอบตัวบุคคล

    • การวิเคราะห์เป็นเครื่องมือช่วยให้เข้าใจตัวเอง ไม่ใช่ข้อจำกัดในชีวิต

แนวคิดที่ควรหลีกเลี่ยง

  • การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น: ศักยภาพของแต่ละคนแตกต่างกัน การเปรียบเทียบอาจสร้างความเครียดโดยไม่จำเป็น
  • มองด้านที่ด้อยว่าไร้ค่า: ด้านที่ด้อยสามารถนำมาใช้งานได้ในบริบทที่เหมาะสม
  • ยึดติดกับตัวเลขหรือผลการวิเคราะห์มากเกินไป: การพัฒนาอยู่ที่การลงมือทำและปรับตัวตามสถานการณ์
Scroll to Top